สิ่งที่ครวรู้ก่อน เกี่ยวกับการตรวจภายใน
ตรวจภายใน คำที่ผู้หญิงส่วนใหญ่คุ้นเคย คือการตรวจระบบสืบพันธุ์สตรีภายในบริเวณอุ้งเชิงกราน ช่องคลอด ปากมดลูก มดลูก ท่อนำรังไข่ รังไข่ กระเพาะปัสสาวะ รวมถึงทวารหนัก เพื่อค้นหาความผิดปกติที่อาจเป็นสัญญาณของโรคต่างๆ
ทำไมต้องตรวจภายใน
การตรวจภายในเป็นได้ทั้งการตรวจสุขภาพประจำปี หรือตรวจเมื่อผู้ป่วยรู้สึกว่ามีความผิดปกติและเข้ามาพบแพทย์ โดยแพทย์จะทำการซักประวัติ เพื่อประเมินอาการและวินิจฉัยว่าจำเป็นต้องตรวจภายในหรือไม่ แต่โดยทั่วไปแล้วการตรวจภายในมักจะเป็นการตรวจเพื่อ..
- ตรวจเพื่อคัดกรองความเสี่ยงมะเร็งปากมดลูก (แปปสเมียร์-Pap Smear)
- ตรวจหาการติดเชื้อในช่องคลอด เช่น การติดเชื้อรา หรือแบคทีเรีย
- ตรวจหาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น โรคหนองในแท้ โรคหนองในเทียม โรคเริม โรคพยาธิในช่องคลอดจากการติดเชื้อ หรือโรคติดเชื้อไวรัสเอชพีวี (HPV)
- ตรวจและหาสาเหตุของภาวะเลือดออกผิดปกติจากโพรงมดลูก ตกขาวผิดปกติ เนื้องอกมดลูก เนื้องอกรังไข่ ภาวะมดลูกหย่อน อาการปวดบริเวณอุ้งเชิงกรานหรือบริเวณหลัง
- ตรวจก่อนการคุมกำเนิด เพื่อดูว่าอุปกรณ์ที่จะใช้มีความเหมาะสม เช่น การใส่ห่วงอนามัย
- ตรวจเมื่อเริ่มตั้งครรภ์ เพื่อประเมินความสมบูรณ์พร้อม หาความเสี่ยง และป้องกันโรคที่เกี่ยวข้อง
ใครบ้างที่ควรตรวจภายใน
โดยปกติแล้ว แพทย์จะแนะนำให้ผู้หญิงที่มีอายุ 21 ปีขึ้นไปทำการตรวจภายในปีละ 1 ครั้ง ยกเว้นกรณีที่มีความเสี่ยงหรือมีปัญหาสุขภาพในรายบุคคลอาจต้องตรวจถี่ขึ้นเพื่อติดตามผลและป้องกันความเสี่ยง ทั้งนี้ผู้หญิงที่ไม่มีเพศสัมพันธ์หรือหญิงโสด ถ้าประจำเดือนมาตามปกติ ไม่มีอาการอื่นๆ ที่น่าสงสัย ควรตรวจหาความเสี่ยงมะเร็งปากมดลูกเมื่ออายุ 30 ปีขึ้นไป สำหรับสตรีทุกช่วงอายุที่มีความผิดปกติเกี่ยวกับอุ้งเชิงกรานและอวัยวะสืบพันธุ์ เช่น
- มีเลือดออกผิดปกติจากช่องคลอดที่ไม่ใช่ประจำเดือน
- ปวดท้องน้อย
- ปวดประจำเดือนมากผิดปกติ
- ตกขาวผิดปกติ
- สงสัยว่ามีก้อนหรือคลำพบก้อนที่ท้องน้อย
- ช่องคลอดมีกลิ่น
- มีแผลบริเวณอวัยวะเพศ
ควรเขาพบสูตินรีแพทย์เพื่อรับการตรวจรักษา โดยปกติแล้วแพทย์จะทำการซักประวัติ ตรวจเบื้องต้น เพื่อประเมินว่าจำเป็นต้องตรวจภายในหรือไม่ ซึ่งในบางรายก็ไม่จำเป็นต้องตรวจภายใน
- SUP Board กิจกรรมสุด Cool แห่งปี 2021 หนีโควิด
- โรคระบาดลุกลาม สร้างแรงบันดาลใจในงาน Paris Fashion Week
การเตรียมตัวก่อนตรวจภายใน
- ไม่ควรมีเพศสัมพันธ์ หรือใช้ยารักษาภาวะช่องคลอดแห้ง ยาเหน็บอย่างน้อย 2 วัน หรือ 48 ชม. ก่อนรับการตรวจ
- หลีกเลี่ยงเข้ารับการตรวจในช่วงที่มีประจำเดือน โดยควรตรวจหลังจากประจำเดือนหมดสนิท หรือก่อนมีประจำเดือนรอบถัดไปประมาณ 1 สัปดาห์ ในสตรีวัยหมดประจำเดือน หรือสตรีที่ฉีดยาคุมกำเนิดจะไม่มีประจำเดือน สามารถตรวจได้เลย
- ควรปัสสาวะออกให้หมดก่อน แพทย์จะได้คลำขนาดมดลูกและปีกมดลูกให้ชัดเจน
- ไม่จำเป็นต้องงดอาหารและน้ำดื่ม
- ในการวินิจฉัยบางโรค เช่น เยื่อบุมดลูกอยู่ผิดที่ อาจมีการตรวจทางทวารหนักร่วมด้วย กรณีนี้ควรถ่ายอุจจาระก่อนเข้าตรวจ
- ทำจิตใจให้สบาย ไม่ต้องกังวล ขณะทำการตรวจด้วยการสอดเครื่องมือเล็กๆ หรือการคลำของแพทย์ อาจทำให้ผู้เข้ารับการตรวจเกิดรู้สึกไม่สบายตัวหรือเจ็บเพียงเล็กน้อย แต่อาการหรือความเจ็บจะหายไปเมื่อตรวจเสร็จ
ติดตามเนื้อหาดีๆ น่าอ่านได้ที่ cyberwearz.com อัพเดตทุกสัปดาห์